อย่าง ไร ก็ ตาม เนื่อง จาก เมอร์เคเตอร์ ได้ นํา ข้อ คัดค้าน ของ ลูเทอร์ เกี่ยว กับ การ ขาย ใบ ลด โทษ บาป ใน ปี 1517 ไป ใส่ ไว้ ใน หนังสือ เล่ม นี้ โครโนโลเกีย จึง ถูก ใส่ ไว้ ใน ราย ชื่อ หนังสือ ต้อง ห้าม ของ ค ริ สตจักร คาทอลิก. Siinä mainittiin kuitenkin Martti Lutherin vuonna 1517 julkaisema protesti anekauppaa vastaan, ja siksi katolinen kirkko lisäsi sen kiellettyjen kirjojen luetteloonsa. jw2019 ๑๑ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือกองทัพของโค ริ แอนทะเมอร์ตั้งกระโจมของพวกเขาใกล้เนินเขาเรมาห์; และมันเป็นเนินเขาเดียวกับที่มอรมอนบิดาข้าพเจ้าได้ซ่อนกบันทึกไว้กับพระเจ้า, ซึ่งเป็นบันทึกศักดิ์สิทธิ์. 11 Ja tapahtui, että Koriantumrin sotajoukko pystytti telttansa Raman kukkulan luo; ja se oli sama kukkula, johon minun isäni Mormon akätki Herran huomaan aikakirjat, jotka olivat pyhiä. LDS ตาม คํา กล่าว ของ นัก โสต ประสาท วิทยา ริ ชาร์ด ลาร็อก เสียง ระดับ ดัง กล่าว "ค่อย กว่า เสียง เครื่องบิน ไอพ่น แต่ ดัง กว่า ดิสโกเทก ส่วน ใหญ่. " Kuulotutkija Richard Larocquen mukaan tällainen ääni on "hiljaisempi kuin suihkukoneen ääni mutta voimakkaampi kuin melu useimmissa diskoissa".
บีแฟล็ตคลาริเนต (Bb CLARINET) คลาริเนต เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเดียว ปี่คลาริเนตในระดับเสียงบีแฟล็ตได้ถูกใช้เป็นตัวแทน เมื่อมีการกล่าวถึงปี่คลาริเนตเสมอ คลาริเนตมีใช้อยู่หลายชนิด เช่น บีแฟล็ต คลาริเนต เบส คลาริเนต อีแฟล็ต คลาริเนต เป็นต้น ลำตัวปี่ คลาริเนตทำด้วยโลหะและไม้ หรือบางครั้งก็ทำด้วยยางหรือพลาสติก ลำตัวปี่กลวง เปลี่ยนระดับเสียง โดยใช้นิ้วและคีย์โลหะบุนวมปิดเกิดรู ปี่ คลาริเนตมีรูปร่างคล้ายกับปี่โอโบ แตกต่างกันที่ปากเป่า (กำพวด)คุณภาพเสียงของปี่ คลาริเนต มีช่วงเสียงกว้างและทุ้มลึกมีนิ้วพิเศษที่ทำเสียงได้สูงมากเป็นพิเศษ
ที่มา คลิ๊กที่นี่ คลาริเน็ต มี 5 ขนาดหลักๆ คือ 1. เบสคลาริเน็ต ใช้ระบบการวางนิ้วชุดเดียวกับแคลริเน็ตบีแฟลตทุกอย่าง แต่เวลาเล่นจะมีเสียงต่ำกว่าบีแฟลตแคลริเน็ตอยู่ 1 คู่แปด เหมาะที่จะนำไปใช้บรรเลงแนวทำนองในระดับเสียงต่ำ ลักษณะเด่นของเบสแคลริเน็ตอยู่ที่ข้อต่อ กำพวดจะเป็นรูปโค้งงอ ปากลำโพงทำด้วยโลหะ งอย้อนขึ้นมาคล้ายกับแซกโซโฟน คลาริเน็ต มี 5 ขนาดหลักๆ คือ 2. บาสเซตคลาริเน็ต จะคล้ายกับโซปราโนแคลริเน็ต แต่ขนาดยาวกว่า 3. บาสเซตคลาริเน็ต ขนาดใหญ่และยาวกว่าแคลริเน็ตอื่น ๆ ระดับเสียงต่ำกว่าบีแฟล็ตแคลริเน็ตอยู่คู่ 5 เพอร์เฟกต์ ปากลำโพงทำด้วยโลหะ โค้งงอย้อนขึ้นเหมือนแซกโซโฟน 4. อัลโตคลาริเน็ต มีขนาดเล็กกว่าบีแฟลตแคลริเน็ต และมีระดับเสียงสูงกว่าบีแฟลตแคลริเน็ตคู่ 5 เพอร์เฟค 5. เอแฟลตคลาริเน็ต มีขนาดเล็กที่สุด ที่มาของข้อมูล คลิ๊กที่นี่
1. ปากเป่า 2. Barrel 3. ข้อต่อบน 4. ข้อต่อล่าง 5. กระเดื่อง 6. ปากแตร 7. ที่รัดปากเป่า 8. คอปากเป่า 2. ข้อควรระวังเป็นพิเศษ โดยทั่วไป Clarinet ของ YAMAHA ผลิตจากไม้ Grenadilla หรือ ในบางรุ่นผลิตจาก พลาสติก (ABS resin) สำหรับ รุ่นที่ ผลิตจาก ไม้นั้น จะง่าย ต่อการแตกร้าว หากโดน สภาพอากาศ ที่มี การเปลี่ยนแปลง ของอุณหภูมิ และ ความชื้น อย่างฉับพลันอยู่เสมอ ๆ ดังนั้น จึงขอแนะนำวิธี การดูแลรักษาเครื่อง เพื่อยืดอายุการใช้งานดังนี้ 1. ไม่ควรทิ้งเครื่องไว้กลางแดดหรือ โดนฝน หรือทิ้งเอาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง (ร้อน) เป็นเวลานาน ๆ 2. เช็ดเครื่องให้แห้งทันทีภายหลังใช้เครื่อง 3. สำหรับเครื่องใหม่ การเป่าครั้งแรกไม่ควรใช้เวลานาน พยายามเริ่มต้นในระยะแรก ด้วยการใช้เวลาในการเป่าแต่ละครั้งเท่า ๆ กัน เพื่อให้เนื้อไม้ได้ปรับตัว 3. วิธีประกอบเครื่อง Eb Soprano Clarinet 1. ทาขี้ผึ้งสำหรับไม้ก๊อก (Cork Grease) บริเวณข้อต่อส่วนที่เป็นไม้ก๊อกตามรูป 2. ประกอบปากแตร และ Barrel เข้ากับตัวเครื่อง 3. ประกอบปากเป่าเข้ากับ Barrel Bb และ A Clarinet 1. ประกอบ Barrel เข้ากับข้อต่อบน และ ปากแตรเข้ากับข้อต่อล่าง 2. ใช้มือซ้ายจับข้อต่อบน โดยมือขวาจับข้อต่อล่าง ค่อย ๆ หมุนจนประกอบเข้ากันได้สนิท 3.
คลาริเน็ต(Clarinet) เป็นเครื่องดนตรีจำพวกเครื่องเป่าลมไม้(woodwind instruments) ที่พัฒนามาจากเครื่องดนตรีในสมัยกลางเรียกว่า chalumeau แคลริเน็ตเป็นเครื่องดนตรีที่มักทำจากไม้หรือพลาสติก ทำให้เกิดเสียงโดยใช้ลิ้นเดี่ยว (single reed) ซึ่งรัดติดกับปากเป่าเช่นเดียวกับแซกโซโฟน ช่วงเสียงแคลริเน็ต (Bb) เริ่มตั้งแต่ D (เขียนว่า E แต่เล่นแล้วออกเสียง D เนื่องจากเป็นแคลริเน็ตบีแฟลต มีเสียงต่ำกว่าที่เขียนไว้ 1 tone) เรื่อยขึ้นไปประมาณ 3 ½ คู่แปดประวัติ[แก้] ชาวเยอรมันชื่อ Johann Christoph Denner ประดิษฐ์คลาริเน็ตเมื่อราวปี ค. ศ. 1700 และเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในวงออร์เคสตราเมื่อปี ค. 1780 (แคริเน็ตเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีโปรดของโมซาร์ท) และแทนที่โอโบในวงโยธวาทิตได้ในที่สุด
เบสคาริเนต – เป็นการใช้งานระบบการวางนิ้วชุดเดียวกับแบบโซปราโนทุกอย่าง ทว่าเวลาเล่นจะมีเสียงต่ำกว่าอยู่ 1 คู่แปด เหมาะอย่างมากที่จะนำไปใช้ในการบรรเลงเพลงในลักษณะที่มีเสียงต่ำ ลักษณะเด่นของคาริเนตประเภทนี้จะอยู่ที่ข้อต่อ กำพวดจะมีลักษณะโค้งงอ ปากลำโพงจะทำด้วยโลหะ งอย้อนขึ้นมาเหมือนกับแซกโซโฟน 2. บาสเซตคาริเนต – ลักษณะจะเหมือนกับโซปราโนหมดทุกอย่างแต่ว่ามีความยาวมากกว่าแค่นั้นเอง 3. อัลโตคาริเนต – จะเป็นคาริเนตที่มีขนาดยาวและใหญ่มากกว่าคาริเนตประเภทอื่นๆ ระดับเสียงจะต่ำกว่าโซปราโนอยู่คู่ 5 เพอร์เฟกต์ ปากลำโพงจะทำด้วยโลหะ โค้งงอย้อนขึ้นเหมือนกับแซกโซโฟน 4. โซปรานิโน – จะเล็กกว่าโซปราโน แต่เสียงสูงกว่าคู่ 5 เพอร์เฟค 5. เอแฟลตคาริเนต – มีขนาดเล็กมากที่สุด
ศ. 1700 และเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายใน วงออร์เคสตรา เมื่อปี ค.