สอดแผ่นตาจากด้านบนลงด้านล่างให้เข้ากันสนิท แล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 4. 3. วิธีการติดตาแบบชิปแปลงวิธีที่ 2 (Modified Chip Budding II) 1. เตรียมแผลบนต้นตอเหมือนวิธีที่ 1 เพียงแต่เฉือนปากแผลส่วนบนขึ้นไปเข้าเนื้อไม้ 2. เตรียมแผ่นตาพันธุ์ดีแบบวิธีติดตาแบบชิปแปลงวิธีที่ 1 3. สอดแผ่นตาเข้าไปขัดในร่องบ่าด้านล่างและให้ปลายแผ่นตาด้านบนเข้าตรงรอยผ่าของปากแผลด้านบนพอดี แล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 4. วิธีการติดตาแบบชิปแปลงวิธีที่ 3 (Modified chip Budding III) 1. เตรียมแผลต้นตอเหมือนวิธีที่ ๑ เพียงแต่เฉือนบ่าลึกเข้าเนื้อไม้ในแนวขนานกับลำต้น 2. เตรียมแผ่นตาพันธุ์แบบชิปแปลงวิธีที่ 1 3. สอดแผ่นตาพันธุ์ดีเข้าตรงรอยผ่าจากบ่าลงไปในเนื้อไม้บนต้นตอ แล้วพันพลาสติกให้แน่น การปฏิบัติหลังจากทำการติดตา 1. ประมาณ 7-10 วัน ให้สังเกตดูแผ่นตาที่ทำการติดไว้ ถ้ายังสดหรือมีสีเขียวแสดงว่าแผ่นตาติดและเริ่มประสานกับเยื่อเจริญของต้นตอ จึงทำการกรีดพลาสติกที่พันให้ตาโผล่ออกมา 2. เมื่อตาโผล่ออกมาเป็นยอดอ่อนแล้วจึงแก้พลาสติกที่พันไว้เดิม แล้วพันด้วยพลาสติกใหม่บริเวณส่วนเหนือและใต้ยอดอ่อนที่โผล่ออกมาใหม่จนกว่ารอยประสานบริเวณที่ทำการติดตานั้นประสานกันสนิทเป็นเนื้อเดียวกันจึงค่อยแก้พลาสติกออกให้หมด 3.
Skip to content ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ดาวบิดเฟรนช์แมน ผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ควบ M1 คว้ากริดสตาร์ทที่ 3 ในเกมประเดิมครึ่งหลังศึกโมโตจีพี 2021 พร้อมล่าแชมป์เกมวันอาทิตย์นี้ ที่ เรดบูลล์ริง ศึกโมโตจีพี 2021 กลับมาดวลความเร็วอีกครั้งหลังพักเบรกไป 5 สัปดาห์ ยกพลชิงชัยที่ เรดบูลล์ ริง เมืองสปีลเบิร์ก ประเทศออสเตรีย ระยะทางต่อรอบ 4. 318 กิโลเมตร ในรายการมิชลิน กรังด์ปรีซ์ ออฟ สตีเรีย โดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ จาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี บิดทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้ากริดสตาร์ทที่ 3 ได้เริ่มเกมจากแถวหน้า ด้าน มาเวริค บีญาเลส #12 ดาวบิดสแปนิช เพื่อนร่วมสังกัดประจำการในกริดที่ 9 ส่วน วาเลนติโน่ รอสซี่ #46 และ คาล ครัทช์โลว์ #35 ดาวบิดจอมเก๋าจากปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 17 และ 23 ตามลำดับ สำหรับเกมรอบชิงชนะเลิศ ศึกมิชลิน กรังด์ปรีซ์ ออฟ สตีเรีย จะออกสตาร์ทในเวลา 19. 00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม (ตามเวลาประเทศไทย) แฟนความเร็วสามารถตามลุ้นตามเชียร์ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่องพีพีทีวี 36 ได้เช่นเดิม แท็ก: SPORT, motogp, MotoGP 2021, ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่, โมโตจีพี, โมโตจีพี 2021
การติดตาแบบแพทซ์ หรือแผ่นปะ (Patch Budding) เป็นการติดตาอีกแบบหนึ่งโดยนำแผ่นตาพันธุ์ดีปะไปบนรอยแผลของต้นตอที่เตรียมไว้เป็นรูปต่าง ๆ นิยมใช้กับพืชที่เกิดรอยประสานเร็วและไม่มีน้ำยาง เช่น ต้นลูกเนยและชบา เป็นต้น 3. การติดตาแบบแผ่นปะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Patch Budding) 1. เตรียมแผลบนต้นตอโดยการกรีดเปลือกไม้บนต้นตอเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วลอกเปลือกไม้ออก 2. กรีดและลอกแผ่นตาเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเท่ากับแผลบนต้นตอ 3. นำแผ่นตาที่ได้ไปปะบนรอยแผลของต้นตอ โดยเอาส่วนตาหงายขึ้น แล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 3. การติดตาแบบวงแหวน (Ring Budding) 1. เตรียมแผลบนต้นตอโดยการควั่นรอบกิ่งหรือต้นตอเป็นวงแหวนเหมือนการตอนกิ่งแบบควั่นกิ่ง แล้วลอกเปลือกที่ควั่นออก 2. เตรียมแผ่นตาพันธุ์ดีเป็นรูปวงแหวนขนาดเท่ากับรอยแผลบนต้นตอ 3. นำแผ่นตาที่ได้ไปปะบนรอยแผลของต้นตอแล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 3. 3 การติดตาแบบวงแหวนแปลง (Flute Budding) 1. เตรียมแผลบนต้นตอเป็นแบบวงแหวน แต่ให้เปลือกไม้ไว้เป็นสะพานเชื่อมโยงรอยแผลที่ควั่นทั้ง 2 ด้าน ขนาด 1/5 ของเส้นรอบวง 2. เตรียมแผ่นตาพันธุ์ดีในลักษณะวงแหวนเท่ากับแผลของต้นตอ 3. นำแผ่นตาที่ได้ไปปะลงบนแผลของต้นตอแล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 3.
กรณีที่ตาที่ติดไม่แตกยอดออกมาเป็นยอดอ่อนจำเป็นต้องทำการบังคับซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ วิธีการบังคับตา ทำได้หลายวิธีดังนี้ 1. ใช้วิธีโน้มยอดของต้นตอลงมาในทิศทางตรงกันข้ามกับส่วนที่ติดตา 2. ควั่นหรือบากเปลือกต้นตอเหนือบริเวณที่ทำการติดตาซึ่งอยู่ด้านเดียวกับตาที่ติด 3. ตัดยอดดต้นตอให้สั้นลง โดยให้มีใบติดอยู่ประมาณ 4-5 ใบ เหนือบริเวณที่ทำการติดตา 4. ตัดยอดต้นตอให้สั้นชิดตาที่ติด 5. บังคับตาโดยใช้ฮอร์โมนป้ายที่ตาเพื่อให้ตาแตกออกมาใหม่ การบังคับตาอาจต้องทำหลาย ๆ วิธีช่วยกันเพื่อให้ตาแตกเร็วขึ้น วิดีโอ YouTube
การติดตา (BUDDING) การติดตา เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชอีกวิธีหนึ่งที่ใช้กิ่งพันธุ์ดีน้อย สะดวกรวดเร็ว และสามารถนำกิ่งพันธุ์ดีจากแหล่งหนึ่งไปทำการติดตาอีกแหล่งหนึ่งได้ แต่อาจต้องใช้เวลาในการบังคับและเลี้ยงตาใหม่ให้เป็นต้นพืชนานกว่าการทาบกิ่ง ผู้ที่จะทำการขยายพันธุ์ด้วยการติดตาได้ต้องอาศัยความชำนาญและประมาณจึงจะได้ผลดี วิธีการติดตาแบ่งออกเป็น 4 วิธีดังนี้ 1. การติดตาแบบตัวที (T) เป็นวิธีการติดตาที่เปิดปากแผลบนต้นตอแบบตัว T สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนทำการติดตาแบบนี้ คือ ต้นตอต้องสมบูรณ์ ลอกเปลือกไม้ง่าย ไม่เปราะหรือฉีกขาด และตาพันธุ์ดีสามารถลอกแผ่นตาออกได้ง่าย ต้นตอต้องมีขนาดไม้ใหญ่โตเกินไป ควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0. 5 นิ้ว 1. 1. การติดตาแบบตัวที (T-Budding) 1. ทำแผลบนต้นตอ โดยเลือกตรงส่วนที่ใกล้ข้อ กรีดเปลือกไม้ขวางกิ่งหรือลำต้นทำเป็นหัวตัว T ยาวประมาณ 1-1. 5 เซนติเมตร ลงมาในแนวขนานกับต้นหรือกิ่ง จากนั้นใช้ปลายมีดเปิดหัวตัว T และเผยอเปลือกไม้ตามแนวยาวที่กรีดไว้ 2. เฉือนกิ่งตาพันธุ์ดีเป็นรูปโล่โดยให้ติดเนื้อไม้เล็กน้อย และเพื่อให้การติดตาได้สนิท ควรลอกเนื้อไม้ออกจากเปลือก แผ่นตาโดยลอกจากด้านล่างของแผ่นตาขึ้นด้านบน 3.
4. การติดตาแบบลอกเปลือกแบบรูปโล่ (Skin Budding) 1. เตรียมแผลบนต้นตอแบบรูปโล่ แต่ไม่ติดเนื้อไม้แล้วลอกเปลือกไม้ออก 2. เตรียมแผ่นตาเป็นรูปโล่ขนาดเท่ากับรอบแผลบนต้นตอและลอกเนื้อไม้ทิ้ง 3. นำแผ่นตาที่ได้ไปปะบนรอยแผลของต้นตอแล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 4. การติดตาแบบชิปหรือไม่ลอกเนื้อไม้ (Chip Budding) วิธีการติดตาแบบนี้นิยมใช้กับพืชที่ลอกเปลือกไม้ออกยากหรือเปลือกไม้บางและเปราะ ขนาดต้นตอประมาณ 0. 5 นิ้ว เหมาะสำหรับการติดตาองุ่น เงาะ และไม้ผลอื่นที่ลอกเปลือกไม้ยาก 4. วิธีการติดตาแบบชิบ (Chip Budding) เตรียมแผลต้นตอโดยการเฉือนเนื้อไม้และทำบ่าด้านบนและด้านล่างของปากแผลในลักษณะบ่าเอียงเข้าหากัน เฉือนแผ่นตาเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ขนาดที่สามารถสอดเข้ารอยแผลของต้นตอได้ สอดแผ่นตาเข้าไปในรอยแผลของต้นตอทางแนวด้านข้าง และจัดให้แผ่นตารับกับรอยบ่าที่ทำไว้ให้สนิท แล้วพันด้วยพลาสติกให้แน่น 4. วิธีการติดตาแบบชิปแปลงวิธีที่ 1 (Modified Chip Budding I) 1. เตรียมแผลต้นตอโดยการเฉือนเนื้อไม้เป็นรูปโล่ และทำบ่าที่ด้านล่างของรอยแผล 2. เตรียมแผ่นตาพันธุ์ดีแบบรูปโล่โดยตัดหลังปากแผลด้านล่างเป็นรูปหน้าสิ่วสำหรับที่จะสอดแผ่นตาเข้าไปรับบ่าของรอยแผลบนต้นตอได้ผลดี 3.